ขิงสามารถพบได้ในอาหารเอเชียหลายชนิดและกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่พวกเราอีกด้วย และถูกต้องเพราะว่าหัวร้อนจากภายในและมีรสชาติที่ร้อนน่ารับประทาน แต่การกินขิงดิบนั้นดีต่อสุขภาพจริงหรือ?
ขิงมีส่วนผสมอันทรงคุณค่า เช่น น้ำมันหอมระเหย โพแทสเซียม และวิตามินซี
ไม่เพียงแต่คุณสามารถใช้ขิงในอาหารเอเชียหรือชาเท่านั้น คุณยังสามารถรับประทานขิงดิบได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ขิงดิบนั้นมีรสเผ็ด คุณไม่ควรบริโภคมากเกินไป
ขิงสามารถทำคะแนนได้ด้วยส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพมากมาย: รากสีเหลืองนั้นเต็มไปด้วยขิงและสารฉุนอื่นๆ รวมถึงน้ำมันหอมระเหย นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี แมกนีเซียม เหล็ก แคลเซียม โซเดียม ฟอสเฟต และโพแทสเซียมอีกมาก
ขิงมีฤทธิ์แก้อาการคลื่นไส้ อาการอักเสบ และอาการปวดได้ ขิงยังมีอะไรให้คุณเลือกมากมายเมื่อพูดถึงรสชาติ รากขิงมีรสเผ็ดร้อน ขิงส่วนใหญ่เป็นที่รู้จักจากอาหารเอเชียและนำมาชงเป็นชา แต่คุณสามารถกินขิงดิบได้หรือไม่?
กินขิงดิบหรือปรุงดีกว่า?
สิ่งสำคัญล่วงหน้า: หากคุณซื้อขิงจากการเพาะปลูกทั่วไป อาจยังมียาฆ่าแมลงอยู่บนผิวหนังได้ คุณจึงควรปอกเปลือกหัว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสารอาหารที่สำคัญอยู่ใต้ผิวหนังโดยตรง จึงควรใช้ขิงออร์แกนิกจะดีกว่า คุณสามารถรับประทานแบบไม่ปอกเปลือกก็ได้ แต่ควรล้างให้สะอาดก่อน
การกินขิงดิบ - ข้อดีและข้อเสีย
ใครก็ตามที่กินขิงดิบสามารถมั่นใจได้ว่าส่วนผสมอันทรงคุณค่าจะถูกเก็บรักษาไว้ที่ราก ตัวอย่างเช่น วิตามินซีในขิงอาจหายไประหว่างปรุงอาหาร
ข้อเสีย: ขิงดิบจะร้อนเป็นพิเศษ Gingerol ที่ฉุนจะอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อถูกความร้อน ถ้าคุณไม่สามารถหรือไม่อยากทานเผ็ดขนาดนั้น คุณก็ควรเตรียมชาขิงหรือปรุงรสซุปหรือแกงด้วยขิงสด แทนที่จะกินขิงอย่างเดียว
ในทางกลับกัน หากคุณรับประทานขิงดิบก็ไม่ควรรับประทานขิงสดเกินห้าสิบกรัมต่อวันเป็นเวลานาน ปริมาณที่สูงขึ้นอาจไม่ดีต่อสุขภาพอีกต่อไป เพราะขิงดิบมากเกินไปอาจทำให้เกิดแก๊สในท้อง ท้องเสีย และแสบร้อนกลางอกได้ เนื่องจากขิงดิบมีรสเผ็ดมาก เราจึงมักจะไม่ถึงปริมาณเหล่านี้อยู่แล้ว
เคล็ดลับ: ทางที่ดีควรเก็บขิงที่ไม่ได้ปอกเปลือกไว้ในที่แห้งและเย็น รากจะคงอยู่ได้สองสามสัปดาห์ ด้วยรากขิงที่หั่นแล้ว เพียงตัดปลายที่แห้งออกแล้วใช้ส่วนที่เหลือตามปกติ เมื่อช้อปปิ้ง คุณจะนึกถึงขิงสดได้จากผิวที่เรียบเนียนและเต่งตึง