in

แช่แข็งเห็ด Kefir – นี่คือวิธีการทำงาน

แช่แข็งเห็ด kefir – คุณควรหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดนี้

Kefir ไม่เพียงแต่อร่อยมาก แต่เห็ดยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสมูทตี้แสนสดชื่น มูสลี่โฮมเมด ครีมชีส หรือเครื่องดื่มคีเฟอร์ คุณก็สามารถคิดเสกของว่างเพื่อสุขภาพจากเห็ดคีเฟอร์ได้อย่างรวดเร็ว เป็นเวลากว่าร้อยปีที่มีการใช้ kefir ในการรักษาโรคเกี่ยวกับลำไส้เป็นต้น

  • ก่อนที่คุณจะแช่แข็งเห็ดก่อนอื่นให้ล้างออกด้วยน้ำไหล
  • สำคัญ: อย่าใช้ตะแกรงโลหะสำหรับสิ่งนี้ Kefir เป็นกรดพื้นฐานและเชื้อราเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี หากคีเฟอร์สัมผัสกับโลหะ อาจเกิดไฟฟ้าช็อตเล็กน้อยซึ่งทำลายวัฒนธรรมคีเฟอร์ของคุณ
  • หลังจากล้าง kefir แล้ว ให้วางลงบนผ้าฝ้ายหนาๆ แล้วปล่อยให้แห้ง ทางที่ดีควรทิ้งไว้ค้างคืน
  • จากนั้นใส่เห็ดหอมแห้งลงในช่องแช่แข็ง ใส่นมผงลงในช่องแช่แข็งพอให้ปิดเห็ด kefir ให้ทั่ว
  • สุดท้ายปิดช่องแช่แข็งให้ดีแล้ววางในช่องแช่แข็ง โดยปกติคุณสามารถเก็บเห็ด kefir ในช่องแช่แข็งได้สองสามเดือนโดยไม่ต้องกังวลว่าวัฒนธรรมจะเสียหาย

กระตุ้นการเพาะเลี้ยง kefir แช่แข็งอีกครั้ง

การละลายเห็ด kefir อีกครั้งใช้เวลานานกว่าการแช่แข็งการเพาะเลี้ยง kefir เล็กน้อย ยิ่งคุณแช่แข็ง kefir ไว้นานเท่าไร ก็ยิ่งใช้เวลานานขึ้นเท่านั้นก่อนที่คุณจะสามารถสร้าง kefir ที่มีสุขภาพดีได้อีกครั้ง

  • ขั้นแรก ใส่เห็ดในชามที่มีนม คลุมชามด้วยผ้าแล้วนำไปแช่ตู้เย็น
  • เมื่อเห็ด kefir ละลายแล้ว ให้ล้างออกเบาๆ ด้วยน้ำอุ่น จากนั้นเห็ดมาในแก้วที่สะอาดและคลุมด้วยนมอีกครั้ง แก้วก็เข้าไปในตู้เย็น
  • อาจใช้เวลาสักครู่ก่อนที่เชื้อรา kefir ของคุณจะเริ่มทำงานอีกครั้ง ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่มันถูกแช่แข็ง บางครั้งอาจใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่คุณจะเริ่มผลิต kefir รสชาติเยี่ยมอีกครั้ง จนกว่าจะถึงเวลานั้น ให้ทำซ้ำขั้นตอนที่อธิบายไว้ทุก ๆ สิบสองชั่วโมง
รูปอวาตาร์

เขียนโดย จอห์นไมเยอร์ส

เชฟมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม 25 ปีในระดับสูงสุด เจ้าของร้านอาหาร. ผู้อำนวยการเครื่องดื่มที่มีประสบการณ์ในการสร้างโปรแกรมค็อกเทลระดับโลกที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ นักเขียนด้านอาหารที่มีเสียงและมุมมองที่ขับเคลื่อนโดยเชฟที่โดดเด่น

เขียนความเห็น

ที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่ ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

ชาดำหรือชาเขียว อย่างไหนดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน?

ตำนานหรือความจริง: การดื่มขณะรับประทานอาหารไม่ดีต่อสุขภาพหรือไม่?