แช่ใบเจลาตินในชามน้ำเย็นเพื่อทำให้นิ่ม
ตีไข่แดงกับน้ำตาลและเปลือกมะนาวในชามเหนืออ่างน้ำอุ่นเป็นเวลาอย่างน้อย 10 นาทีด้วยเครื่องตีหรือเครื่องผสมมือจนส่วนผสมสีขาวข้นและเป็นฟองก่อตัวขึ้น
บีบเจลาตินออกแล้วคนให้เข้ากัน ค่อยๆ เทแชมเปญลงในส่วนผสมของไข่แดงและน้ำตาล นำชามออกจากอ่างน้ำ วางชามในน้ำเย็นและปล่อยให้ส่วนผสมเย็นลงในขณะที่คน
ตีวิปปิ้งครีมจนตั้งยอด ค่อยๆ ตะล่อมครีมเป็นส่วนๆ ลงในส่วนผสมของโฟมที่เย็นแล้วด้วยที่ตี ต้องสร้างมวลที่โปร่งสบาย เทครีมลงในถ้วยตวงเพื่อให้แบ่งมวลได้ง่ายขึ้น
เติมครีมคาวาลงในแก้วของหวานแล้วนำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 6 ชั่วโมงเพื่อให้เซ็ตตัว
สำหรับเค้กอัลมอนด์ เปิดเตาอบที่ไฟบน/ล่าง 180 องศา
จาระบีกระทะสปริงฟอร์มที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 28 ซม.
ขูดเปลือกมะนาวของมะนาวหนึ่งลูกอย่างประณีต บีบน้ำออก
ตีเนยที่อุณหภูมิห้องกับน้ำตาล 120 กรัมและเกลือเล็กน้อยด้วยเครื่องผสมมือหรือเครื่องเตรียมอาหารให้เป็นก้อนครีมเบา ๆ จนน้ำตาลละลาย
แยกไข่. ผัดไข่แดงทีละฟองลงในส่วนผสมของเนยและน้ำตาล ตีไข่ขาวกับเกลือเล็กน้อยจนแข็งครึ่ง ใส่น้ำตาลที่เหลือลงในไข่ขาวที่ตีจนแข็งครึ่งแล้วตีต่อจนน้ำตาลละลายและไข่ขาวจะแข็ง
ผสมแป้งกับผงฟูและตะแกรง ผสมอัลมอนด์ป่น ผิวเลมอน เครื่องเทศมายอร์ก้า และน้ำมะนาวทีละส่วนลงในส่วนผสมของเนยและน้ำตาล ตะล่อมส่วนผสมแป้งและผงฟูลงไป แล้วตะล่อมไข่ขาวในแต่ละส่วนอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ได้แป้งที่บางเบาและโปร่งสบาย
เทแป้งลงในพิมพ์สปริงฟอร์มที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้ทั่วและอบในเตาอบอุ่น ด้านล่างที่สาม ประมาณ 30 นาที จากนั้นนำเค้กออกจากเตาอบ ปล่อยให้เย็นลงในพิมพ์
ล้างแอปริคอต เอาหินออก แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม ปอกขิงแล้วขูดให้ละเอียด ฝานวานิลลาออกตามยาวแล้วขูดเนื้อออก
น้ำตาลคาราเมลในกระทะ ใส่ขิงขูดแล้วราดด้วยน้ำส้ม เพิ่มเนื้อวานิลลาและเคี่ยวของเหลวกวนตลอดเวลา
เพิ่มแอปริคอตและคนให้เข้ากันในของเหลวที่ลดลง ใส่น้ำเชื่อมและแยม คนให้เข้ากัน ปรุงรสตามชอบ นำราเอาต์ออกจากความร้อนและปล่อยให้เย็นลง
นำครีมคาวาแช่เย็นออกจากตู้เย็นแล้วตกแต่งด้วยบลูเบอร์รี่สดและมิ้นต์สด จัดใส่จานที่เตรียมไว้
ใส่รากูต์แอปริคอท 2 ช้อนโต๊ะ โรยด้วยดอกลาเวนเดอร์ แล้วตัดเค้กอัลมอนด์เป็นวงกลมเล็กๆ โรยด้วยน้ำตาลผงและเสิร์ฟบนจานของหวาน